กรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จอมแฉแห่งยุค ที่ตามราวีพรรคภูมิใจไทย ประกาศบุกสนามไทยลีก เกมวัดแชมป์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เยือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด วันที่ 4 เม.ย. 66 ที่ ทรู สเตเดี้ยม ใน ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นั้น “แชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ “กีฬาเดลินิวส์” ว่า นายชูวิทย์ สามารถเข้าสนามได้ ในฐานะแฟนบอล แต่หากมีการชูป้ายอะไรนั้น เป็นเรื่องของสโมสรเจ้าบ้านต้องดูแล
ปราสาทสายฟ้า ที่มี นายเนวิน ชิดชอบ เป็นประธานสโมสร ทำคะแนนทิ้งห่าง ทรู แบงค็อก 12 แต้ม ขณะเหลือ 6 นัด ทำให้เกมที่ 25 ของฤดูกาล หากบุกชนะ แข้งเทพ ได้ จะทิ้ง 15 แต้ม และได้แชมป์ทันที เพราะเฮดทูเฮดดีกว่า ซึ่ง นายเนวิน ก็ประกาศมานานแล้วว่า จะปิดจ๊อบแชมป์สมัย 8 ในเกมนี้คำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด
ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ ก็ประกาศว่าจะไปร่วมเชียร์เกมนี้ด้วย โดยเมื่อนักข่าวถามว่า จะไป จ.บุรีรัมย์ หลังจับเบอร์ผู้สมัคร ส.ส. หรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า “คุณเห็นผมไหม คนอย่างผมเหรอ ผมไม่กลัวหรอกครับ ไปแค่บุรีรัมย์ เอาวันที่ 4 นี้ดีกว่า ไปสนามกีฬารังสิต แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ แข่งกัน ผมจะไปยืนเชียร์ มันจะผิดอะไร ผมไปเชียร์ ผมไม่พูดอะไร ผมไม่เอาการเมืองเข้าไปสู่กีฬา ผมไปแจกเรื่องโนคอร์รัปชั่น”
เรื่องนี้ นายกรวีร์ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายชูวิทย์ จะเข้าสนามย่อมทำได้ แต่ก็จะมีระเบียบในเรื่องการชูป้ายห้ามโจมตีบุคคล หรือห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งก็เป็นข้อห้ามเหมือนกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของทีมเจ้าบ้านที่ต้องสอดส่องดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ข้อ 4.5 กรณีที่มีการทำผิดข้อบังคับใดๆ จากกองเชียร์ ในการชูป้ายเชียร์ที่แสดงข้อความยั่วยุ หรือข่มขู่ หรือดูหมิ่นทีมคู่แข่งขัน หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือนําชูป้ายที่แสดงข้อความอันไม่เหมาะสมต่อสาธารณชน ในลักษณะของการดูถูก ดูหมิ่นหรือลดความน่าเชื่อถือต่อสมาคม หรือบุคคลที่สาม ไปแสดงในบริเวณสถานที่จัดการแข่งขัน สโมสรต้นสังกัดของกองเชียร์ และสโมสรทีมเหย้า โดนโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และ/หรือ ห้ามทีมเหย้าจัดแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัด ส่วนครั้งต่อไปปรับ 5 หมื่น-1 แสนบาท และ/หรือ ห้ามทีมเหย้าจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 3 นัด และตัด 3 คะแนน นอกจากนี้ ทีมเหย้ายังมีความผิดในเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย